ราคาขายปลีก น้ำมัน ( บาท/ ลิตร )

เบนซิล 95 44.64

แก็สโซฮอลล์ 95 36.35

แก็สโซฮอลล์ 91 35.98

แก็สโซฮอลล์ อี 20 34.24

แก็สโซฮอลล์ อี 85 33.99

ดีเซล 32.94

EnergyStat.diesel_B7 32.94

ดีเซล บี 20 44.94

ดีเซล บี 7 พรีเมียม 44.94

E

ข่าวพลังงาน
Hover Icon
ลงพื้นที่ติดต่อเพื่อขอข้อมูลการใช้พลังงาน และแนะนำวิธีการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนของงบกองทุนฯ

ลงพื้นที่ติดต่อเพื่อขอข้อมูลการใช้พลังงาน และแนะนำวิธีการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนของงบกองทุนฯ

27 พฤศจิกายน 2567
2
Hover Icon
ลงพื้นที่ตรวจต่ออายุใบอนุญาตประจำปี 2568

ลงพื้นที่ตรวจต่ออายุใบอนุญาตประจำปี 2568

13 พฤศจิกายน 2567
0
Hover Icon
ทดสอบและตรวจสอบระบบไฟฟ้าและป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ของ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง

ทดสอบและตรวจสอบระบบไฟฟ้าและป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ของ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง

13 พฤศจิกายน 2567
1
Hover Icon
ลงพื้นที่ตรวจรับตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 2 x 2 เมตร

ลงพื้นที่ตรวจรับตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 2 x 2 เมตร

13 พฤศจิกายน 2567
0
Hover Icon
ร่วมเข้าแถวเคารพธงชาติ ณ บริเวณหน้าเสาธง อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี

ร่วมเข้าแถวเคารพธงชาติ ณ บริเวณหน้าเสาธง อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี

13 พฤศจิกายน 2567
4
Hover Icon
เข้าเยี่ยมชมโครงการสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาศพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่าง มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

เข้าเยี่ยมชมโครงการสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาศพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่าง มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

13 พฤศจิกายน 2567
0
Hover Icon
เดือนรอมฎอน อันประเสริฐ

???? ข่าวประชาสัมพันธ์ เดือนรอมฎอน อันประเสริฐ สำหรับช่วงนี้ พี่น้องชาวไทยมุสลิมอยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน นับว่าเป็นเดือนอันประเสริฐยิ่ง ทางสำนักงานพลังงานจังหวัดปัตตานีจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของเดือนนี้ และเพื่อให้พี่น้องชาวปัตตานีร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาลดโลกร้อน หรือปัญหาก๊าซเรือนกระจก อันส่งผลให้ชั้นบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไปซึ่งทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น จึงอยากเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดปัตตานีร่วมด้วย ช่วยกันประหยัดพลังงานไปพร้อมๆกัน โดยเสนอเรื่องหลักๆ ดังนี้ 1.ขับขี่ การขับขี่ยานพาหนะเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ณ ปัจจุบันเราต่างใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล ซึ่งมีส่วนประกอบของนํ้ามันนั้นเอง ซึ่งหากว่า เราใช้พลังงานจากแหล่งนี้ในทุกๆวันก็มีโอกาสที่จะหมดไปจากโลกได้ ดังนั้น อยากแนะนำการสัญจรก่อนออกเดินทางให้คิดกันสักนิด คิดว่าจะเดินทางไปที่ไหน คิดว่ามีทางลัดหรือไม่ คิดว่าที่ที่จะไปสำคัญมากแค่ไหน เพียงแค่นี้คุณก็คือส่วนนึงของการช่วยโลกแล้วแถมช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้แล้ว 2. อาหาร จากการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม ช่วงก่อนการเปิดบวชนั้นจะเห็นพี่น้องถือถุงแกงคนละไม้ คนละมือ ร่วมกับของหวาน นํ้าหวานต่าง ๆ และของทานเล่นอีกมากมาย ซึ่งเหมาะแก่เราที่จะใช้เทคนิคโดยการวางแผนเลือกซื้ออาหารให้พอเหมาะ ไม่ซื้ออาหารมากเกินความจำเป็น และทานอาหารจนหมดในทุกมื้อ สำหรับบ้านไหนที่ชอบทำอาหารปรุงเองก็ควรทำในปริมาณที่สามารถทานได้หมด เพื่อลดการเน่าเสียของอาหาร เพราะเมื่อใดที่อาหารเหล่านั้นเกิดการเน่าเสียจะสามารถผลิตก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซอื่น ๆ อันส่งผลให้เกิดการสร้างมลพิษที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมได้ 3.ไฟฟ้า จากสถานการณ์การพยากรณ์อากาศไ้แจ้งว่าปัตตานีช่วงนี้มีอากาศร้อนอบอ้าวในตอนกลางวัน ซึ่งบางบ้านมีค่าไฟเพิ่มขึ้นอันเป็นผลให้บางบ้านกังวลเรื่องค่าไฟที่แพงด้วย ดังนั้น วิธีการช่วยให้ใช้งานไฟฟ้าให้เหมาะสม ก็มีหลากหลายวิธี ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ เช่น การเปิดไฟช่วงที่ใช้งาน หลังเลิกใช้ปิดไฟทันที, เช็คอุปกรณ์ที่ไม่ใช้งานและถอดปลั๊กออกให้หมด, รีดผ้าที่จำเป็นครั้งละมากๆ ดีกว่าการรีดผ้าในทุกวัน, เปิดหน้าต่างรับลม, ปรับโหมดแอร์เพิ่มขึ้น 1 องศาสามารถประหยัดไฟได้ร้อยละ 10, ตั้งค่า sleep mode ใน laptop, เลือกมุมทำงานมุมเดียวหรือจุดเดียว, อย่าเปิดปิดตู้เย็นบ่อย และจัดระเบียบของในตู้เย็น, ปลูกต้นไม้รอบๆบ้านช่วยกันความร้อนส่วนนึงเข้าสู่บ้านได้ เป็นต้น 4. นํ้า ถือเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่สำคัญและมีค่ามาก เพราะสิ่งมีชีวิตทุกประเภทล้วนต้องการน้ำเพื่อใช้ในการหล่อเลี้ยงชีวิตทั้งนั้น โดยในปัจจุบันจำนวนการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นและปริมาณของนํ้าสะอาดในปัจจุบันเริ่มลดลง จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตในด้านต่างๆของเราด้วย ดังนั้น หันมาใส่ใจการใช้นํ้ากันสักนิด เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยวิธีง่ายๆ เช่น คำนึงถึงปริมาณการใช้อย่าให้สิ้นเปลือง, ตรวจสอบและทดสอบว่าอุปกรณ์ใช้น้ำในบ้านมีการรั่วซึมไหม, ปิดก๊อกนํ้าระหว่างการทำกิจกรรม เช่น ช่วงระหว่างแปรงฟัน ช่วงถูสบู่, นำน้ำซักล้างไปรดน้ำต้นไม้เป็นต้น เพียงการปรับใช้ทรัพยากรพลังงานเหล่านี้ให้เหมาะสมคุณสามารถทำได้ โปรดช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เป็นคนใช้ชีวิตอย่างฉลาดด้วยการเห็นคุณค่าของพลังงานต่างๆ #ทุกทรัพยากรมีคุณค่า #EMU65 #EnergyMobileUnit #ชาวปัตตานีร่วมใจใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า #รอมฎอน

29 มีนาคม 2566
46
Hover Icon
ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการประเมินสัมภาษณ์ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการลดการใช้พลังงานในภาครัฐปีงบประมาณ พ.ศ.2565-2566 ส่วนที่ 2

รายชื่อผู้ผ่านการประเมิน ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการลดการใช้พลังงานในภาครัฐปีงบประมาณ พ.ศ.2565-2566 ส่วนที่ 2 ได้ดำเนินการสอบสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 27 มีนาคม 2566

28 มีนาคม 2566
53
Hover Icon
รายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อเลือกสรรเป็นลูกจ้างจ้างเหมาบริการ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการลดการใช้พลังงานในภาครัฐปีงบประมาณ พ.ศ.2565-2566 ส่วนที่ 2

???? ข่าวประชาสัมพันธ์ ?????? ประกาศสำนักงานพลังงานจังหวัดปัตตานี เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อเลือกสรรเป็นลูกจ้างจ้างเหมาบริการ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการลดการใช้พลังงานในภาครัฐปีงบประมาณ พ.ศ.2565-2566 ส่วนที่ 2 *กำหนด วัน เวลา และสถานที่ในการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง - ผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบประเมินความเหมาะสม (สัมภาษณ์) กับตำแหน่ง เข้ารับการประเมินในวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ สำนักงานพลังงานจังหวัดปัตตานี ศาลากลางจังหวัดปัตตานี อาคาร 1 ชั้น 1 ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี

24 มีนาคม 2566
101
Hover Icon
วันป่าไม้โลก (World forestry day)

วันป่าไม้โลก (World forestry day) ตรงกับวันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี และเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักคุณค่าป่าไม้ทรัพยากรที่สำคัญต่อมนุษย์โลกทั้งทางตรงและทางอ้อม ป่าไม้ นับได้ว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อมนุษย์โลกทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็น แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ให้มนุษย์ได้บริโภคใช้สอยและประกอบอาชีพด้านการทำไม้ การเก็บหาของป่า การผลิตไม้แปรรูป ซึ่งสร้างรายได้ให้กับประชาชนจำนวนมาก และที่สำคัญ ป่าไม้ ยังช่วยรักษาสมดุลทางธรรมชาติ รักษาต้นน้ำลำธาร และเป็นที่อยู่ให้กับสัตว์นานาชนิดอีกด้วย แต่ในปัจจุบันการขยายตัวของประชากรโลกอย่างรวดเร็ว จึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดการบุกรุกทำลายป่าไม้ เพื่อบุกเบิกพื้นที่ทำกิน และลักลอบตัดไม้ทำลายป่ามากมาย ทำให้ป่าไม้ลดลงอย่างน่าใจหาย ส่งผลให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในแต่ละปีทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของทรัพยากรป่าไม้ และช่วยกันอนุรักษ์ป่าไม้ไม่ให้ถูกทำลายมากไปกว่านี้ จึงมีการกำหนดให้ทุก ๆ วันที่ 21 มีนาคม เป็น วันป่าไม้โลก (World forestry day) ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการปลูกป่าในวันนี้ด้วย สำหรับในประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับดูแลของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ขอน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทาน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 เกี่ยวกับการปลูกป่าเพื่อการรักษาต้นน้ำ การปลูกต้นไม้ผสมผสานระหว่างไม้โตเร็วและไม้โตช้า เพื่อช่วยในการรักษาสมดุลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพิ่มโทษผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการบุกรุกทำลายป่า นอกจากนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กรมป่าไม้ได้จัดทำบานประตูที่ทำมาจากไม้ของกลาง ที่ตกเป็นของแผ่นดิน มอบให้กับผู้พิการและประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 7,666 บาน อีกด้วย ทั้งนี้ กรมป่าไม้ได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการบริหารจัดการป่าไม้ด้วยการสร้างแนวร่วมในการแก้ปัญหาและพัฒนาป่าไม้ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางมากยิ่งขึ้น กล่าวคือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมหาข้อมูล ร่วมวางแผน ร่วมติดตามผล ร่วมกันบำรุงรักษา และร่วมกันรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญต่อบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งภาคส่วนต่าง ๆ จึงได้จัดกิจกรรมในงานวันสำคัญต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ขณะที่ทางด้าน นายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมวันป่าโลก จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่เองเนื่องในวันป่าไม้โลกทางเราไม่มีการจัดกิจกรรมอะไรมาก ก็จะมีเพียงการจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ความรู้ แจกจ่ายกล้าไม้ชนิดต่าง ๆ และสร้างความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงความสำคัญของป่าไม้ และเล็งเห็นถึงคุณค่า ประโยชน์ของทรัพยากรป่าไม้ที่มีอยู่จำกัด ทั้งนี้สำหรับ ป่าไม้ หมายถึง บริเวณที่มีต้นไม้หลายชนิด ขนาดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น และกว้างใหญ่พอ ที่จะมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้น เนื่องจากป่าไม้เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญ ของทั้งคนและสัตว์ รวมไปถึงความสัมพันธ์ กับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ปัจจุบันนี้ป่าไม้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดผลกระทบต่าง ๆ ทั้งมนุษย์และสัตว์ เช่น ภัยธรรมชาติ และภาวะเรือนกระจก โดยบนพื้นโลกมีป่าไม้ต่าง ๆ มากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ สามารถแบ่งป่าในโลกออกไปหลายชนิด คือ ป่าศูนย์สูตร (Equatorial Rainforest) เป็นป่าที่มีต้นไม้สูงขึ้นเบียดกันหนาแน่น แสงแดดไม่สามารถส่องลงมาถึงพื้นดินได้ เป็นป่าไม้ที่มีใบกว้างไม่ผลัดใบ และจะพบไม้เลื้อย หรือไม้เถาพันหรือเกาะตามกิ่งก้านของต้นไม้เต็มไปหมด ป่าร้อนชื้น (Tropical Rain Forest) มีลักษณะคล้ายป่าศูนย์สูตร จะปรากฏอยู่ด้านหน้าของภูเขา ที่ตั้งรับลมประจำที่พัดจากทะเลเข้าสู่ฝั่ง จึงทำให้สภาพเป็นป่าดงดิบ ซึ่งมีต้นไม้น้อยกว่าป่าศูนย์สูตร ป่ามรสุม (Monsoon Forest) เป็นป่าไม้ที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ห่าง ๆ บริเวณพื้นดินจะมีไม้เล็ก ๆ ขึ้น แสงแดดสามารถส่องผ่านทะลุไปถึงพื้นดินได้ ซึ่งมักจะเป็นไม้ที่ผลัดใบ ป่าไม้อบอุ่นไม่ผลัดใบ (Temperate Rainforest) เป็นป่าไม้ในเขตอบอุ่นที่มีใบเขียวตลอดปี มีพรรณไม้น้อยชนิด แต่ละชนิดจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ขนาดและความสูงของต้นไม้เท่ากับป่าศูนย์สูตร ป่าไม้อบอุ่นผลัดใบ (Temperate Deciduous Forest) เป็นป่าไม้ที่มีใบเขียวชอุ่มในฤดูร้อน แต่จะผลัดใบในฤดูหนาว ต้นไม้มีลำต้นสูงและมีใบขนาดใหญ่ ป่าสน (Needle Leaf Forest) เป็นป่าที่มีต้นไม้ลักษณะลำต้นตรง กิ่งสั้น ใบเล็กกลมคล้ายเข็มเย็บผ้า มีต้นไม้ขึ้นเบียดเสียดกันอย่างหนาแน่น และมีใบเขียวชอุ่มตลอดปี บริเวณพื้นดินแทบจะไม่มีต้นไม้เตี้ย ๆ ซึ่งต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้ตระกูลสนทั้งสิ้น ป่าไม้เนื้อแข็งไม่ผลัดใบ (Evergreen Hardwood Forest) จะมีเป็นต้นไม้เตี้ย ๆ ลำต้นขนาดเล็ก ใบแข็ง และต้นมีกิ่งตั้งแต่ใกล้พื้นดิน จนถึงยอด ลักษณะคล้ายกับป่าไม้ผสมกับป่าละเมาะ (Scrub Forest) ป่าสะวันนา (Savanna Woodland) จะเป็นป่าไม้ที่มีไม้ขึ้นอยู่ห่าง ๆ บริเวณช่องว่างระหว่างต้นไม้ใหญ่ ๆ จะมีไม้พุ่มขึ้นอย่างหนาแน่น มีสภาพอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง จึงทำให้ต้นไม้ขึ้นไม่หนาแน่น ป่าหนามและป่าพุ่มเขตร้อน (Thornbush and Tropical Scrubs) เป็นป่าที่มีต้นไม้ที่ทนต่อความแห้งแล้งและไม้พุ่ม ซึ่งพืชเหล่านี้สามารถทนต่อสภาพความแห้งแล้งที่ยาวนานและมีฤดูฝนสั้น ๆ ได้ดี ส่วนป่าหนามนั้น จะเป็นไม้พุ่มที่มีหนาม และจะผลัดใบในช่วงที่ขาดแคลนน้ำ ป่ากึ่งทะเลทราย (Semidesert Woodland) เป็นพืชพรรณที่ทนต่อความแห้งแล้ง ส่วนมากเป็นพวกไม้พุ่ม ตามพื้นดินของป่าชนิดนี้ จะมีวัชพืชหรือพืชต้นเล็ก ๆ ขึ้นอยู่น้อยมาก พืชพรรณในทะเลทราย (Desert Vegetation) มักจะพบพืชที่มีใบเล็ก ๆ พืชที่มีหนาม ซึ่งเป็นพืชที่มีลำต้น สามารถเก็บน้ำไว้ใช้ได้ เช่น ตะบองเพชร รวมทั้งมีพวกหญ้าแข็ง ๆ ขึ้นปะปนอยู่เป็นหย่อม ๆ ป่าในเขตอากาศหนาว (Cold Woodland) เป็นพืชพรรณที่พบได้ในอากาศแถบขั้วโลกหรือเขตอากาศแบบทุนดรา ต้นไม้ที่ขึ้นมีขนาดเล็กมาก ต้นเตี้ยขึ้นอยู่ห่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกไม้พุ่มเตี้ย ๆ พื้นดินเบื้องล่างปกคลุมด้วยมอสส์ อย่างไรก็ดี ป่าไม้ของแต่ละพื้นที่ทั่วโลก มีความแตกต่างกันสูง จึงทำให้มีการอนุรักษ์ที่แตกต่างกันไป ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ทั่วโลกยังคงเหลืออยู่ประมาณเพียงร้อยละ 30 ของพื้นที่โลกทั้งหมดที่เป็นพื้นดิน และมีแนวโน้มว่าจะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้น เราจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ป่าไม้ และสอดส่องดูแลไม่ให้ต้นไม้ถูกตัดโค่นทำลายมากกว่านี้ เพื่อให้มีทรัพยากรป่าไม้อยู่คู่กับโลกตราบชั่วลูกชั่วหลาน ข้อมูลจาก http://www.thaigoodview.com/

21 มีนาคม 2566
111
ดูทั้งหมด
E
NERGY STATISTICS
สถิติพลังงาน